โดยปกติในทุกๆรายการการแข่งขัน แต่ละทีมจะมีการเตรียมรถแข่งคันที่ 2 ไว้สำหรับการสลับสับเปลี่ยนโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Bike Swaps โดยการเปลี่ยนรถพร้อมยาง เพื่อให้เหมาะกับสภาพสนามเปียก จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อมีป้าย WET RACE แสดงขึ้น
ซึ่งการแสดงป้าย WET RACE จะสามารถแสดงขึ้นได้ทั้งก่อนหรือระหว่างการแข่งขัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ Race Director ต่อสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในสนาม และนอกจากนี้ ก็จะมีการโบกสัญญาณธงขาวกากบาทแดง เพื่อแจ้งนักแข่งที่กำลังทำการแข่งขันอยู่ โดยนักแข่งต้องการจะเปลี่ยนยาง ก็จะเข้าพิทเพื่อทำการสลับรถหรือ Bike Swaps โดยมีกฎข้อบังคับว่าความเร็วที่เข้ามาในพิตเลตต้องไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะเดียวกัน sportspayouts.com ได้ทำการสำรวจตัวเลขค่าเหนื่อยของ “นักบิดโมโตจีพี” ประจำปีนี้ อัปเดตล่าสุดของปี 2023 ปรากฏว่า มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของแชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ได้รับค่าเหนื่อยมากสุดถึง 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเรซละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว ส่วน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกปี 2021 จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ที่อัปค่าเหนื่อยขึ้นมาอีกเท่าตัวจากเดิม 2.5 ล้านเหรียญ ขึ้นมาเป็น 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสัญญาของเขาจะสิ้นสุดในปี 2024 คิดเป็น 275,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเรซ
โดยนักบิดอันดับต้นๆที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุด อันดับ 1 มาร์ค มาร์เกซ 16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามมาด้วย ฟรานเชสโก บัญยาญา (ดูคาติ) และฟาบิโอ กวาร์ตาราโร (ยามาฮ่า) 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ มาเวอริค บีญาเลส (อาพริเลีย) กับ โยฮัน ซาร์โก (พราแมค เรซซิ่ง) คนละ 4 ล้านเหรียญ และ โยฮัน เมียร์ (เรปโซลฮอนด้า) 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถ้าอยากรูว่ามหาศาลขนาดไหนก็ลองเอาตัวเลขกลมๆ 32 คูณเข้าไป
มิดไมล์