คึก’บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ไปลุยน้ำ ‘สมศักดิ์ไม่ตกปลาในอ่าง – ไทยโพสต์

เปิดไทม์ไลน์ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” แข่งกันลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมสุโขทัยคึกคัก ส.ส.พปชร.รอรับนายกฯ เพียบ “สมศักดิ์” ยกคำพูดอดีต ส.ส.การเมืองแบบสุภาพบุรุษ จะไม่ตกปลาในอ่าง ลั่นตัวเองไม่นิยมตกปลาในอ่างหรือเขียนวัวให้เสือกลัว เพราะถ้าเสือไม่กลัววัวก็ตายหมดฝูง 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามสถานการณ์แผนบริหารจัดการน้ำ ตามกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ จ.สุโขทัย วันที่ 26 ก.ย. และวันที่ 29 ก.ย. ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จากนั้นวันที่ 30 ก.ย. ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยวันที่ 29 ก.ย. เดิมวางกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา แต่ได้มีการเปลี่ยนแผนลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ แทน เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากพายุเตี้ยนหมู่ ขณะที่ จ.นครราชสีมา เริ่มมีหลายหน่วยงานลงไปในพื้นที่ให้การช่วยเหลือแล้วนั้น

    ล่าสุด มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 29 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายกฯ ลงพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เพื่อติดตามสถานการณ์และแผนบริหารจัดน้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเตี้ยนหมู่ จนทำให้ต้องมีการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง เพื่อเตรียมการรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะไหลเข้ามา โดย พล.อ.ประวิตรจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา และติดตามโครงการที่ยังดำเนินการก่อสร้าง

    นอกจากนั้น ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ส.ส.พลังประชารัฐได้เตรียมเชิญ พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

    ที่ จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่วัดบ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง เพื่อเตรียมความพร้อมและวางกำหนดการในการต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชนในวันที่ 26 ก.ย. โดยกำหนดการนั้น ในช่วงเช้านายกฯ จะลงพื้นที่วัดบ้านซ่าน เพื่อให้กำลังใจชาวบ้าน มอบถุงธารน้ำใจ และมอบปัจจัยทางการเกษตร หญ้าแห้งพระราชทาน อาหารผสม TMR และถุงยังชีพ หลังจากนั้นจะนั่งรถสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และเดินทางกลับ กทม.ในช่วงบ่าย

    นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า การเตรียมความพร้อมต้อนรับนายกฯ และคณะขณะนี้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว โดยตนได้ตระเวนสำรวจความเสียหายไว้หลายพื้นที่ พื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมเราจะใช้เป็นที่บรรยายรายงานสรุปภาพรวม ซึ่งเครื่องบินที่นายกฯ เดินทางมาน่าจะเห็นถึงพื้นที่น้ำท่วม และอาจจะบินสำรวจดู เพราะการดูจากทางอากาศน่าจะเห็นได้ชัดเจนและง่ายกว่า ส่วนเส้นทางรถยนต์ คงจะดูในพื้นที่ใกล้ๆ แอ่งกระทะ ให้นายกฯ ได้เห็นภาพ และจะมีจินตนาการในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้

    เมื่อถามว่า การมาลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ของนายกฯ หลายคนยังมองเรื่องการวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า จ.สุโขทัยไม่ใช่พื้นที่วัดพลังอะไร เพราะมีความเสียหายจากน้ำท่วมจริงๆ การที่นายกฯ ลงพื้นที่มาเพื่อช่วยเหลือประชาชน และเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวภาคเหนือตอนล่าง และท่านนายกฯ เองก็ตั้งใจจะไปอีกหลายจังหวัด 

จะไม่ตกปลาในอ่าง 

    “ส.ส.ที่จะมาร่วมงานก็เป็น ส.ส.ในพื้นที่ใกล้เคียง ที่มาช่วยดูแลประชาชนและเรียนรู้การวางแผนงานต่างๆ มีอดีตส.ส.ท่านหนึ่งเคยพูดเอาไว้เสมอว่า การเมืองแบบสุภาพบุรุษ จะไม่ตกปลาในอ่าง ซึ่งผมก็ไม่นิยมตกปลาในอ่าง หรือเขียนวัวให้เสือกลัว เพราะถ้าเสือไม่กลัววัวก็ตายหมดฝูง ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแสดงพลังที่สุโขทัย ซึ่งผมขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อน”

    เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวว่าต้องขี่หลังหนีน้ำท่วม นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าไปเขียนข่าวแบบนั้น ที่บ้านของตนมีน้ำท่วมที่หน้าบ้าน ตอนเช้าเดินลุยน้ำมาขึ้นรถแล้วเป็นตะคริว ผู้ติดตามเลยมาช่วยพยุงเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร

     ขณะที่นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนจะเดินทางไปต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีที่เดินทางลงพื้นที่ จ.สุโขทัย ด้วย และในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้จัดสรร ส.ส.ให้ลงพื้นที่ต้อนรับคณะนายกฯ หรือคณะของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยวันที่ 26 ก.ย.จะมี ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง เช่น กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก นครสวรรค์ ไปรอต้อนรับคณะของนายกรัฐมนตรีถึงกว่า 20 คน ส่วนแกนนำของพรรคนอกจากรัฐมนตรีที่ตามคณะนายกฯไปบางส่วนแล้ว จะมีแกนนำพรรค เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายอนุชา นาคาศัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริหารพรรค ไปร่วมด้วย

    น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบอย่างยั่งยืน จึงต้องการรับฟังปัญหาและอุปสรรคจากหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ หากติดขัดสิ่งใด นายกรัฐมนตรีจะได้พิจารณาสั่งการในการรับมือได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายอย่างเร่งด่วน

    เธอบอกว่า สุโขทัยนั้นยังเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคเหนือ เนื่องจากภาคเหนือเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของประเทศ จึงมีแผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพและระบบระบายน้ำทั้งระบบของแม่น้ำยม เช่น ประตูระบายน้ำบ้านหาดเสี้ยว อีกทั้งยังมีโครงการปรับปรุงคลองยม-น่าน จังหวัดสุโขทัย ที่ ครม. ได้เคยอนุมัติกรอบวงเงินไป 2,875 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำในระยะยาวของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นโครงการ 5 ปี (ปี 2563-2567) ในขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ และมีแล้วเสร็จไปบ้างแล้ว ซึ่งมีเป้าหมายให้สามารถรองรับน้ำที่ไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยได้สูงสุด 1,400 ลบ.ม./วินาที ประกอบด้วยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในลำน้ำสาขา และประตูระบายน้ำแม่น้ำยมในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบนและตอนกลาง เพื่อเก็บกักน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลดยอดน้ำของแม่น้ำยมตอนบนและตอนกลางที่จะไหลลงพื้นที่แม่น้ำยมตอนล่าง ปรับปรุงคลองผันน้ำและประตูระบายน้ำ เพื่อให้สามารถผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจเมืองสุโขทัยออกทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จ จะบรรเทาและป้องกันน้ำท่วมไปได้มาก

เพื่อไทยปทุมฯ โวยแผนฆ่างูเห่า

    น.ส.ทิพานันกล่าวต่อว่า ท่านนายกฯ เห็นความสำคัญต่อการบูรณาการการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ดังนั้นจึงต้องการเห็นภาพรวมของจังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ การลงพื้นที่ของนายกฯ ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และหากมีปัญหาอุปสรรค ก็จะได้แก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนการรอรายงานลงไป และให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ เพื่อให้ผ่านสถานการณ์ไปได้อย่างรวดเร็ว การทำงานของนายกรัฐมนตรีเปิดกว้างในกระบวนการการทำงาน ไม่มีแบ่งภาค หรือฐานเสียงว่าเป็นของพรรคใด ฝ่ายใด เป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกจังหวัด

    “ขณะนี้มีพี่น้องประชาชนชาวสุโขทัยที่ติดตามในเพจเฟซบุ๊ก อ้น ทิพานัน ศิริชนะ พอทราบข่าวว่านายกฯ จะลงพื้นที่สุโขทัย ต่างเข้ามาสอบถามด้วยความดีใจและต้องการมารอต้อนรับ พร้อมกับถามเวลาเพื่อจะเตรียมขนม รวมถึงอาหารต่างๆ มาให้นายกฯ เพื่อจะได้ชิมของอร่อยๆ ของสุโขทัย และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ ลุงตู่ในการทำงานอีกด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว

     นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีตส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ ขนทีมงานร่วม 80 ชีวิต มาสมัครเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกมองว่าอาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า เรื่องนี้ทำให้พี่น้องประชาชนจังหวัดปทุมธานีสับสน เดิมทีนายเกียรติศักดิ์เคยเป็น ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เคยเคลื่อนไหวสมัยการชุมนุมกลุ่มกปปส. เคยขึ้นเวทีด่านายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเสียหาย ทำให้ต่อมาเกิดการรัฐประหารจาก พล.อ.ประยุทธ์ และชาวบ้านเองก็ไม่ยอมรับ คนที่สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหาร ไม่รู้ว่าทาง ผู้ใหญ่ในพรรคได้ทราบประเด็นตรงนี้หรือไม่ ในเวลาต่อมา นายเกียรติศักดิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน ทราบมาว่าการเดินทางมาสมัครของนายเกียรติศักดิ์ได้รับการทาบทามจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี

    นายชัยยันต์กล่าวว่า กรณีนี้เหมือนเป็นการบีบตน พยายามทำให้เห็นว่ามีความขัดแย้งกับพรรค เป็นพวกงูเห่า สุดท้ายทนไม่ได้จึงต้องหนีไป ทั้งที่ยังไม่มีความคิดจะย้ายพรรค ยังรักอุดมการณ์พรรคเพื่อไทย ยังยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เอาลุงตู่ อยากให้ทางพรรคเข้ามาจัดการแก้ปัญหา เพราะชาวบ้านเองคงไม่ยอมรับแน่ในการนำคนที่เคยสนับสนุนรัฐประหาร ขึ้นเวทีโจมตีนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาอยู่กับพรรค รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้พรรคการเมืองอื่นเข้ามาแทรกแซงได้อีกด้วย  

    “ส่วนตัวเคารพนับถือพี่แจ๊ด (พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นายก อบจ.ปทุมธานี)  รู้จักกันมากว่า 10 ปี ไม่รู้ว่าพี่แจ๊ดโกรธผม ตั้งแต่สมัยการเลือกตั้งท้องถิ่นคราวที่แล้วหรือไม่ ที่มาขอให้สนับสนุน ผู้สมัครท้องถิ่นที่แกสนับสนุนให้ลงสมัครเลือกตั้ง แต่คนส่วนใหญ่เป็นคนของประชาธิปัตย์ กกต.มีข้อห้ามไม่ให้ ส.ส.เข้าไปยุ่งเกี่ยวการเลือกตั้งท้องถิ่น และในทางการเมือง ผิดวิสัย ไม่อาจไปสนับสนุนได้อยู่แล้ว จากนั้นพี่แจ๊ดพยายามจะเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมจังหวัดปทุมธานี ส่งสัญญาณให้สมาชิกรู้ว่าเป็นคนใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรค ทั้งที่ทางพรรคยังไม่ได้มอบหมายให้ใครเข้ามาเป็นหัวหน้าทีม แต่ก็เริ่มจะมีการวางตัว หาคนมาลงสมัครแข่งกับผมในเขตเลือกตั้งที่ 4 รวมไปถึงส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ในเขตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเขตของนางพรพิมล ธรรมสาร เขตของนายศุภชัย นพขำ จึงอยากให้ทางพรรคได้พิจารณา มาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น” นายชัยยันต์กล่าว.