เคลียร์ข่าวชัด 7HD – พบร่องรอยการขี่รถวิบากของกลุ่มโมโทครอส ที่เข้าไปแข่งขันกันภายในถ้ำโต๊ะหลวง ซึ่งเป็นโบราณสถาน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ล่าสุด ทางกรมป่าไม้เตรียมแจ้งความเอาผิดบุคคลในคลิป โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย
เป็นที่วิจารณ์กันสนั่นถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ของกลุ่มนักขี่รถจักรยานยนต์โมโทครอส หรือ จักรยานยนต์วิบาก ที่เข้าไปแข่งขันกันภายในถ้ำโต๊ะหลวง ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งกรมศิลปากรประกาศให้เป็นแหล่งโบราณสถาน ลำดับที่ 35 ของโบราณสถานที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ จากการตรวจสอบก็ทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มจากจังหวัดกระบี่ และจังหวัดภูเก็ต โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดกระบี่
ถ้ำนี้มีความสวยงามตามธรรมชาติ ภายในถ้ำมีถึง 3 ชั้น เป็นถ้ำหินปูนอยู่บนที่ราบ เป็นเพิงผา และโพรงถ้ำกว้างขวาง ซับซ้อนกันหลายชั้น แต่ละชั้นมีหินงอกหินย้อยสวยงาม เป็นถ้ำโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีร่องรอยการอยู่อาศัย และประกอบกิจกรรมของมนุษย์มาแต่สมัยโบราณ ผนังถ้ำมีภาพเขียนสีโบราณด้วย และเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกมาแล้วหลายเรื่อง
แต่ก่อนจะเข้าไปขับขี่แข่งกันในถ้ำ กลุ่มโมโทครอสกลุ่มนี้มีประมาณ 20-30 คัน รวมตัวกันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภออ่าวลึก ก่อนจะขี่กันไปตามถนน ก่อนจะลัดเลาะเข้าไปขี่กันที่สวนยาง สวนปาล์มของชาวบ้าน ซึ่งลักษณะของเส้นทางเป็นทางวิบาก ขึ้นเนินลงห้วย ขี่รวมกลุ่มกันไปจนถึงถ้ำโต๊ะหลวง
อดีตนักแข่งโมโทครอส เห็นคลิปภาพนี้แล้วบอกว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เคารพสถานที่ ซึ่งเสี่ยงถูกดำเนินคดี
เช่นเดียวกับ นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร มองว่าการขับขี่ลักษณะนี้เป็นการสร้างความเสียหายให้กับถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเป็นถ้ำที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมศิลปากรแล้ว เป็นหนึ่งในโบราณสถาน ดังนั้นหากพบหลักฐานความผิดจะมีความผิดเข้าข่ายตามมาตรา 4 วรรค 1 ตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 700,000 บาท
วันนี้ นายอำเภออ่าวลึก เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าไปสำรวจความเสียหายภายในถ้ำแล้ว ผลสำรวจเบื้องต้นที่บริเวณชั้น 2 ของถ้ำ พบร่องรอยการขี่จักรยานยนต์ลัดเลาะตามหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ และออกไปทางด้านหลัง พบชิ้นส่วนหินงอกหินย้อยแตกหักเสียหายจำนวนหนึ่ง ส่วนชั้นล่างที่มีภาพเขียนสีก็มีรอยล้อรถวิบากขับขี่ไปมาในถ้ำเห็นได้ชัด และขับเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ในการแข่งขันวิบากดังกล่าวด้วย
สำหรับพื้นที่ป่าที่ถูกนำไปทำเป็นเส้นทางแข่งขันวิบาก ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพื้นที่ป่าที่อยู่ในเขตป่าไม้ พ.ศ.2484 เบื้องต้น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้นำป้ายมาติดตั้งห้ามนำรถเข้ามาในถ้ำ ส่วนความผิดอื่นนั้นจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยความเสียหายในส่วนของต้นไม้
นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภออ่าวลึก บอกว่า ตอนนี้ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง และต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้จัดการแข่งขันเป็นคนในพื้นที่อำเภออ่าวลึก โดยมีคนจากพื้นที่อื่น ๆ เข้ามาร่วมแข่งขันด้วย
ด้าน กรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เข้าแจ้งความกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ข้อหาเข้าไปในพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับรายงานแล้ว และสั่งให้เอาผิดถึงที่สุด