การรวมตัวกันของชายสองคนที่เชื่อมโยงแบรนด์ Maybach กับ Mercedes-Benz เข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นขึ้นเมื่อหกสิบปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Maybach อันเป็นสัญลักษณ์แห่งตำนานความหรูนั้น ต้องย้อนเวลากลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในช่วงต้นปี 1909 Wilhelm Maybach และ Karl ลูกชาย ได้ก่อตั้งบริษัท Luftfahrzeug-Motorenbau GmbH ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อแปลตรงตัวในภาษาเยอรมัน ว่า “บริษัทสร้างเครื่องยนต์อากาศยาน” ตามตัวอักษรที่ระบุในใบจดทะเบียน
Wilhelm Maybach เป็นวิศวกร นักออกแบบ และนักอุตสาหกรรมชาวเยอรมัน ในปีคริสต์ศักราช 1883 (พ.ศ. 2426) Maybach ออกแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในความเร็วรอบสูงเครื่องแรกของโลก โดยทำการโน้มน้าวให้ Gottlieb Daimler นำเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้เข้าไปใส่ในยานพาหนะ ส่งผลให้ Reitwagen ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คันแรกของโลกมีหัวใจที่ใช้ขับเคลื่อนเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นจึงมีการคิดค้นและออกแบบ เพื่อติดตั้งเครื่องยนต์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งมีการทำงานที่แตกต่างกันในรูปแบบของยานพาหนะชนิดต่างๆ เช่น รถขนส่งโดยสาร เรือ และอากาศยานประเภทเรือเหาะ งานของ Wilhelm Maybach ถือเป็นการประกาศยุคใหม่ของการออกแบบยานยนต์และเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อน และทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็น “ราชาแห่งนักออกแบบ”
ผู้ชื่นชอบฝีไม้ลายมือของ Maybach อย่าง Emil Jellinek ตัวแทนจำหน่ายและนักแข่งรถชาวออสเตรียที่ประสบความสำเร็จในสนามแข่งของเมืองริเวียร่าในฝรั่งเศส มอบหมายให้ Wilhelm Maybach สร้างรถแข่งที่ล้ำสมัย หลังจากนั้น Maybach ก็ประสบความสำเร็จด้านวิศวกรรมตามแผนงานที่ได้วางเอาไว้ร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิตยานยนต์ Emil ได้สั่งให้ Maybach สร้างรถยนต์รุ่นดังกล่าวจำนวน 36 คัน ในราคาคันละ 550,000 เหรียญทอง ในปี ค.ศ. 1901 Wilhelm Maybach บรรลุความสำเร็จในการสร้างรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรก และมีการตั้งชื่อรถตามชื่อของลูกสาว Emil Jellinek นั่นก็คือ ชื่อ Mercedes ที่กลายเป็นชื่อที่มีความสำคัญในวงการยนตรกรรม ปีค.ศ. 1900 Wilhelm Maybach กับ Karl ลูกชายซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลืองานด้านวิศวกรรมของ Count Ferdinand von Zeppelin ในการปรับปรุงเครื่องยนต์ของเรือเหาะ Zeppelin สิบหกปีต่อมา พวกเขาได้พัฒนาเครื่องยนต์เครื่องบินที่มีกำลัง 160 แรงม้า เครื่องยนต์อากาศยานรุ่นดังกล่าว ขายได้ถึง 2,000 หน่วย แต่ด้วยภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในสมัยนั้น Wilhelm และ Karl จึงโฟกัสไปที่การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลความเร็วรอบสูง สำหรับใช้เป็นต้นกำลังในเรือรบของกองทัพเรือและหัวรถจักรของขบวนรถไฟ
Karl Maybach เป็นวิศวกรที่รับเอาแนวคิดบรรเจิดของพ่อจากการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการถ่ายทอดความรู้จากพ่อสู่ลูกด้วยงานช่างกลที่ทั้งสองช่วยกันสร้าง และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างพ่อกับลูกและทีมวิศวกร ในหัวข้อการออกแบบที่มีความหลากหลายและซับซ้อนของชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์ ทำให้ Karl บรรลุสถานะความเป็นวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ และความสามารถด้านวิศวกรรมที่เหนือกว่า สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Count Ferdinand von Zeppelin ได้สร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ของเรือเหาะชื่อ Luftfahrzeug Motorenbau GmbH โดยร่วมมือกับ Wilhelm และ Karl Maybach ในการปรับแต่งขุมกำลังของเรือเหาะ ในยุคเริ่มต้นการบินขึ้นสู่ท้องฟ้าของมนุษย์ ไม่กี่ปีต่อมา ในปีค.ศ. 1912 บริษัทได้ย้ายฐานการผลิตเครื่องยนต์เรือเหาะไปที่ Friedrichshafen และเปลี่ยนชื่อเป็น Motorenbau Friedrichshafen
Wilhelm และ Karl ซื้อหุ้นที่มีความสำคัญในบริษัทนี้เพื่อเข้าครอบครอง โดย Karl Maybach กลายเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของบริษัท ที่จุดสูงสุดของการร่วมทุนนี้ Karl ได้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับอากาศยานที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในปี 1918 Wilhelm และ Karl ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้ง เป็น Maybach Motorenbau GmbH ในเวลาเดียวกัน ภูมิทัศน์ทางการเมืองที่กำลังร้อนแรง จากความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ของกองทัพเยอรมัน ด้วยการบีบคั้นอย่างหนักจากสนธิสัญญาแวร์ซายที่กระทำต่อผู้แพ้อย่างไร้ความปรานี Karl Maybach ได้เปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจไปที่การออกแบบเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสำหรับรถยนต์ เครื่องยนต์หัวรถจักร และเครื่องยนต์สำหรับการใช้งานทางทะเล เช่นเดียวกับพ่อที่เป็นสุดยอดวิศวกร Karl Maybach มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสร้างยานพาหนะอันล้ำสมัย ที่นำไปสู่การประดิษฐ์รถยนต์ Maybach รุ่น Zeppelin ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Karl ในช่วงเวลาดังกล่าว Karl ยังออกแบบเครื่องยนต์ดีเซลความเร็วรอบสูงสองเครื่อง The SVT 137856 ด้วยความเร็วคงที่ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (160 กม./ชม.) และสูงสุด 128 ไมล์ต่อชั่วโมง (205 กม./ชม.) ในบางสภาวะ สิ่งประดิษฐ์ในช่วงทศวรรษที่ 1930 นี้ ทำให้ Karl Maybach บรรลุสถิติความเร็วของโลกในช่วงเวลานั้น ซึ่งไม่สามารถทำลายได้ในอีก 40 ปีต่อมา
เมื่อ Karl Maybach ต้องรับผิดชอบในการบริหารบริษัท Maybach-Motorenbau GmbH ใน Friedrichshafen ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่ามีเพียงวิศวกรที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเท่านั้นที่สามารถบรรลุมาตรฐานความสมบูรณ์แบบที่กำหนดไว้ สำหรับงานออกแบบและสร้างจักรกลที่สลับซับซ้อนมากที่สุดในยุคนั้น มีการจัดตั้งการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการฝึกอบรมเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อตั้งโดย Karl Maybach ต่อมา ในปี 1919 มีการจัดตั้งโรงฝึกงานสำหรับช่างฝีมือ ซึ่งมีผู้ฝึกงานจากโรงงานเรือเหาะ Zeppelin ทั้งหมดเข้าร่วมฝึกฝนการประกอบเครื่องยนต์ Maybach จึงเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกในเมืองเวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี ที่นำหลักการฝึกของ Ferdinand von Steinbeis ซึ่งคิดค้นขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ผ่านมากลับมาใช้อีกครั้ง มาตรฐานงานประกอบคุณภาพสูงลิบ เกิดจากการวางระบบของ Maybach เพื่อปรับให้ช่างที่เข้าฝึกอบรมต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด เพื่อรักษามาตรฐานของการผลิต มาตรฐานดังกล่าวยังคงฝังแน่นอยู่ในการฝึกอบรมวิศวกรในอนาคตของเวิร์กช็อปแห่งนี้ และกลายเป็นเกณฑ์สำคัญที่ต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกอบรมในลักษณะดังกล่าวนี้ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
ความปรารถนาอันยาวนานของคนในตระกูล Schmid-Maybach คือการยกย่องมรดกของการออกแบบทางวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม งานวิศวกรรมอันชาญฉลาดจากมันสมองของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยานยนต์ ถูกส่งถ่ายจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงทุกวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่า อีกร้อยกว่าปีต่อมา ผมได้มายืนบันทึกภาพ อัครยานยนต์ Maybach ในโรงฝึกงานหรือเวิร์กช็อปสำหรับช่างฝีมือของ Mercedes-Benz Thailand ย่านบางนา ซึ่งสานต่อเจตนารมณ์ของ Karl Maybach เมื่อกว่าร้อยปีก่อนสำหรับการเทรนนิ่งช่างรุ่นใหม่
Mercedes-Maybach S 580 ปี 2022 ที่ถูกนำเสนอโดย Mercedes-Benz Thailand นับเป็นซาลูนรุ่นเรือธงที่ถูกยกระดับตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ของผู้บริหารแบรนด์ตราดาว เช่นเดียวกับ Rolls- Royce และ Bentely ดาวตัวท็อปรุ่นนี้มาพร้อมสมรรถนะ ความหรูหราและพลังแห่งการขับเคลื่อน เพื่อเป็นการแข่งขันกับรถซาลูนสัญชาติอังกฤษที่แพงกว่า Maybach S-Class จัดเต็มทุกองคาพยพสำหรับการโน้มน้าวจิตใจลูกค้ามหาเศรษฐีที่ชอบความหรูหรามีระดับ
ข้อดีของ Maybach ส่วนใหญ่มาจากความเป็นเลิศของ S-Class รุ่นใหม่ (V223) นวัตกรรมทางเทคโนโลยีแบบใหม่ เช่น การบังคับเลี้ยวที่ล้อหลัง E-Active Body Control และระบบซอฟต์แวร์ MBUX เวอร์ชันล่าสุด ทั้งหมดนี้มีอยู่ใน S-Class ใหม่แต่มีการปรับแต่งฟังก์ชันใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างจาก S-Class รุ่นปกติด้วยมาตรฐานที่สูงส่งของ Maybach และเมื่อคุณยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวน 18 ล้านบาท สำหรับการครอบครองอัครยานยนต์ตราดาว คุณจะได้รับประสบการณ์แห่งความสบายที่เหนือกว่า S-Class รุ่นมาตรฐานแบบเทียบกันไม่ติด
Rolls-Royce และ Bentley ในโลกแห่ง Super Luxury มีความน่าเกรงขามบนท้องถนนในด้านอานุภาพของความหรู แต่ Mercedes-Maybach S580 คันนี้ก็ต่อสู้กลับด้วยของไฮเทคนับร้อยๆ รายการเพื่อโอบอุ้มผู้โดยสารที่เป็นผู้บริหารระดับสูงในวงการธุรกิจ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นอีก 7 นิ้ว ซึ่งส่วนใหญ่คุณจะเห็นพื้นที่กว้างขวางอยู่ในประตูหลังที่แสนจะโรแมนติก มันดูอบอุ่นและสะดวกสบายเมื่อก้าวเข้าไปนั่ง ประตูหลัง เปิด-ปิดด้วยระบบอัตโนมัติ มีบานประตูขนาดโคตรใหญ่ ในจุดนี้ หมายถึง “ความสบาย” บริเวณเบาะผู้โดยสารตอนหลังแบบ first class บานพับประตูหลัง เปิดหรือปิดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านสวิตช์ควบคุมบานประตูบนเพดาน หรือใช้การสัมผัสที่มือจับประตูแบบเปิดออก กระจังหน้าสไตล์ซี่ถี่ของ Maybach มีขนาดใหญ่ ถูกออกแบบสำหรับเข้ามาแทนที่กระจังหน้าที่ค่อนข้างเรียบง่ายใน New S-Class รุ่นมาตรฐาน เสา C นั้นตั้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน Maybach S580 4Matic มีโลโก้ Maybach ที่ส่งประกายสว่างไสวซึ่งเตือนให้ทุกคนบนถนนมองเห็นถึงความร่ำรวยของคุณแม้ในเวลากลางคืน
สีทูโทนที่พ่นด้วยความประณีตอย่างน่าทึ่ง แม้งานสีจะมีราคาแพง แต่คุ้มค่าอย่างแท้จริงกับสิ่งที่จะได้รับ ขั้นแรก หุ่นยนต์จะฉีดสเปรย์ให้ทั่วทั้งตัวรถในสีของครึ่งล่าง จากนั้นเส้นแบ่งจะถูกลงสีด้วยมือของช่างก่อนทั้งบอดี้ และส่วนล่างของรถจะถูกปิดบังเพื่อให้สีด้านบนที่ผ่านมือโดยจิตรกรผู้เชี่ยวชาญของ Mercedes มีขั้นตอนมากมายในการทำสีเพื่อให้สีตัวถังเปล่งประกายสวยงาม กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานถึงหนึ่งสัปดาห์ในเวิร์กช็อปเพื่อทำสีตามใบสั่งของลูกค้า ก่อนที่ตัวถังจะกลับสู่กระบวนการประกอบตามปกติ
ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจาก S-Class V223 คือรถซาลูนที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างมากกับโครงสร้างที่คุ้นเคยของ New S-Class แบรนด์ Maybach ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในฐานะยานยนต์ที่มีพื้นฐานมาจาก Mercedes-Benz รุ่นเรือธง มันถูกปรุงแต่งให้ดูโอ่อ่าและมีทุกอย่างพอๆ กับ Bentley Flying Spur อีกด้วย ดังนั้น อย่ากังวลว่าเมื่อขับ Maybach ไปยังที่จอดรถของคันทรีคลับหรูแล้ว รถ Maybach ของคุณจะด้อยกว่าใคร
การตัดสินใจเลือกที่นั่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเบาะคนขับหรือเบาะหลังแบบเลานจ์ ระหว่างเดินทางไปประชุม อาจเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดที่เจ้าของรถ Maybach S 580 ที่นั่งคนขับค่อนข้างดึงดูด ด้วยพวงมาลัยหน้าตาหรูหราและให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม S 580 Maybach ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4.0 ลิตร แบบเดียวกับที่พบในกระโปรงหน้าของ S-Class รุ่น 580 ส่วนรุ่นที่แพงกว่าอย่าง V12 ก็ยังคงมีอยู่แต่ไม่ได้มีการนำเข้ามาขายหากลูกค้าไม่ได้สั่ง เมื่อคุณต้องการ Maybach ที่มีเครื่องยนต์ V8 มันจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 214 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ S580 รุ่นปกติ แต่เรือธงขนาดใหญ่ลำนี้ มีกำลังถึง 510 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร กระจายลงไปยังล้อทั้งสี่ด้วยระบบ 4Matic อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบกันสะเทือนแบบ E-Activ Body Control แบบมาตรฐาน ทำให้สามารถรับมือกับการขับเร็วในโหมด “Sport” ได้อย่างสบาย อย่างไรก็ตาม ความเร็วในระดับท็อปสปีดและการยึดเกาะระดับสูงสุดแบบ AMG ไม่ใช่สิ่งที่ Maybach ต้องการจะอวดอ้าง
ความยอดเยี่ยมของ Mercedes-Maybach ในจุดสำคัญก็คือ เมื่อคุณปรับตั้งระบบรองรับความสบายต่างๆ เพื่อนั่งโดยสารอย่างผ่อนคลาย โหมดการขับเคลื่อนของ “Maybach” จะเน้นความเป็นเอกลักษณ์ มันมีการทำงานคล้ายกับ S-Class แต่ระบบที่ซับซ้อนมากกว่าจะปรับรายละเอียดแยกย่อย เพื่อลงลึกในด้านความสงบเงียบและนุ่มนวล ผนวกความสบายสูงสุด การปรับจูนค่าการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าเน้นความนุ่มนวลมากกว่า Mercedes ทุกรุ่น เกียร์ 9 สปีดถูกตั้งค่าให้ออกตัวด้วยเกียร์สอง และรถจะสตาร์ตด้วยเกียร์สองเสมอเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนที่ราบเรียบขณะออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ระบบกันสะเทือน Air Matic ให้ความผ่อนคลายในโหมด Comfort โดยปรับค่าการตอบสนองของแอร์สปริงให้ส่งถ่ายความนิ่มนวล “สูงสุด” ประสบการณ์ในการขับที่สอดคล้องกันนั้น ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในรถน้อยที่สุดเท่าที่จะได้รับ ทุกข้อมูลที่ป้อนจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คอยอำนวยความสะดวกและการเตรียมความพร้อมต่างๆ แม้แต่เบรกก็ยังก้าวหน้ากว่า S-Class รุ่นมาตรฐาน ส่งผลให้การชะลอตัวและการหยุดรถ เป็นไปอย่างราบรื่น สตาร์ตเตอร์-เจนเนอเรเตอร์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบบูรณาการ หรือ Mild Hybrid 48V ทำงานอยู่เบื้องหลังโดยเจ้าของรถจะไม่มีวันมองเห็น มันจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดนิ่งอยูกับที่เพื่อรอการเคลื่อนตัว และสตาร์ตเครื่องยนต์อย่างรวดเร็วอีกครั้งในทันทีที่ยกเท้าออกจากแป้นเบรก การสตาร์ตแบบใหม่ ทำให้คุณจะไม่รู้เลยว่าเครื่องยนต์ดับหรือสตาร์ตอีกครั้งเมื่อใด หากไม่มีข้อความบนแผงหน้าปัด Mercedes-Maybach S580 มาถึงจุดที่เทคโนโลยี Auto Start/Stop ขั้นสูง ทำงานอย่างไร้รอยต่อ และถือเป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่จำนวนมากของ Mercedes พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดความเครียดและความเหนื่อยล้าของผู้ขับ สิ่งที่ทำให้ Maybach มีความพิเศษมากกว่ารถคู่แข่งก็คือ ปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อสภาพถนนเปลี่ยนไปในลักษณะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อระบบติดตามช่องเดินรถหรือช่องจราจร การสิ้นสุดเลนกะทันหัน การทำเครื่องหมายบนช่องทางที่หายไป การขับเข้าไปสู่เขตก่อสร้างถนนที่มีตัวแปรหลากหลาย รวมถึงสถานการณ์อื่นๆ ในอดีต ระบบช่วยขับและระบบความปลอดภัยเมื่อต้องเจอเข้ากับตัวแปรบนถนนที่แปลกประหลาด อาจทำให้การทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทำสิ่งแปลกๆ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ไม่ว่าสถานการณ์ที่วุ่นวายบนถนนจะเป็นอย่างไร ระบบเฝ้าระวังของ Maybach จะไม่ถูกกระตุ้นเพื่อทำให้การขับเคลื่อนเอาแน่เอานอนไม่ได้ แทนที่จะต้องปิดปุ่มรักษาช่องทางเดินรถและระบบเฝ้าระวังต่างๆ อย่างรวดเร็วในสภาพถนนที่ย่ำแย่ แต่ Maybach นั้นไว้วางใจได้เพียงแค่รักษาความสงบและขับมันไปเรื่อยๆ ตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไปจากสภาพเส้นทางจะไม่ทำให้ Maybach S580 เกิดความสับสน ระบบยังคงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่และจะไม่เข้ามาแทรกแซงโดยไม่จำเป็น
เบาะทุกตำแหน่งหุ้มหนัง Exclusive nappa leather sienna brown/black พื้นที่เดียวที่คุณสามารถอาศัยอยู่ใน Maybach โดยไม่มีโอกาสเกิดความรำคาญ หรือสิ่งรบกวนก็คือเบาะผู้โดยสารตอนหลัง เมื่อระบุแพ็กเกจ Executive Rear Seat Package Plus เมื่อเทียบกับ Maybach รุ่นก่อน เจ้า S580 รุ่นใหม่จะมีพื้นที่วางขา พื้นที่ส่วนศีรษะและส่วนข้อศอกเพิ่มขึ้น ทำให้นั่งสบายมากกว่า S-Class เบาะหลังสามารถปรับตำแหน่งเอนหลังได้เต็มที่ สูงสุดถึง 43.5 องศา เพียงแค่แตะปุ่มเดียวเพื่อเลื่อนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าไปข้างหน้า เพื่อเปิดพื้นที่วางเท้า ระบบอัตโนมัติจะเปิดที่พักเท้าสองตัวลง (อันหนึ่งสั้น และสำหรับคนตัวสูง) เบาะนั่งทั้งสอง มีโปรแกรมการนวดมากมายให้เลือกผ่านแท็บเล็ตที่วางอยู่บนคอนโซลกลาง หรือหน้าจอที่ด้านหลังของพนักพิงศีรษะด้านหน้า ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Maybach รุ่นนี้คือ ฟังก์ชันการนวดน่อง เจ้าของรถรุ่นใหม่สามารถเปิดใช้งานระบบนวดน่องในรถได้ตามหน้าที่ เบาะนั่ง ที่วางแขน และแม้แต่พนักพิงศีรษะยังมีระบบอุ่น เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ผู้โดยสารตอนหลังซึ่งหมายถึงเจ้าของรถจะล่องลอยอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น ระบบดังกล่าวจะทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนและหลับพักผ่อนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ที่วางแก้วยังมีระบบอุ่นร้อนหรือทำความเย็น เพื่อทำให้เครื่องดื่มที่เตรียมไว้สำหรับการเดินทาง มีอุณหภูมิตามที่ต้องการโดยเฉพาะแชมเปญและไวน์ แม้แต่การเข้าไปข้างในก็เป็นเรื่องที่ง่าย เนื่องจาก Maybach ได้เพิ่มตัวคาดเข็มขัดนิรภัยใหม่เพื่อให้คาดเข็มขัดในตำแหน่งที่สะดวกกว่าในการคว้า แค่ยกมือนิดเดียวระบบสั่งงานด้วยท่าทางจะทำงานและตอบสนองทันที เข็มขัดนิรภัยจะดันตัวออกมา เพื่อรอให้คุณเสียบมันเข้ากับตัวล็อก
เมื่อเดินทาง ธุรกิจพันล้านของคุณยังคงดำเนินต่อไป พวกงานประชุมออนไลน์หรือการนั่งทำงานเตรียมสั่งการ ทำได้ง่ายที่ด้านหลังด้วยถาดโลหะอัลลอยหุ้มหนังที่จัดเก็บไว้ในคอนโซลกลางพร้อมปลั๊กไฟมากกว่าในห้องทำงาน วัสดุและงานตกแต่ง designo black piano lacquer trim with
flowing lines สวยงามเกินขอบเขตของความหรูแบบปกติไปไกลลิบ ออปชันตู้เย็นมูลค่า 40,320 บาท ก็ยังมีให้ถ้าชอบดื่มระหว่างเดินทาง และหากคุณมีแนวโน้มที่จะต้องรับแขกสำคัญบนรถคันนี้ แก้วแชมเปญแบรนด์ Maybach เคลือบเงินก็ทำให้ธุรกิจของคุณดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น นั่งเงียบๆ จนเหงา ก็เปิดระบบเสียงเซอร์ราวนด์ Burmester 4D เสียงกลางแหลมและเบสจะสั่นสะเทือนคุณอย่างแท้จริง เครื่องสะท้อนเสียงที่ติดตั้งไว้ที่พนักพิงของแต่ละที่นั่ง จะส่งคลื่นไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกเหมือนยืนอยู่ข้างลำโพงในคอนเสิร์ตของ A-HA มันเป็นประสบการณ์เสียงในรถยนต์ที่ไม่เหมือนใคร แต่เบาะนั่งแบบสั่นอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ระบบเสียง 4D สามารถปิดหรือปรับระดับเสียงได้ตามต้องการด้วยการปรับตั้งที่ง่ายดายผ่านแท็บเลส นอกเหนือจากระบบเสียง Burmester 4D แล้ว Maybach ใหม่ ถูกปิดผลึกอย่างแน่นหนา มันเงียบกว่า ทั้งเสียงยาง ลม หรือเสียงต่างๆ ท้องถนนที่คุณเคยพบเมื่อนั่งหรือขับในรถคันอื่นๆ นั้นลดลงจนแทบจะไม่ได้ยิน ระบบป้องกันเสียงแปลกปลอมจะปล่อยให้คุณล่องลอยอยู่ในพื้นที่ห้องโดยสารแห่งความเงียบงัน ซึ่งทำให้มีความสงบสุขอยู่นานหลายชั่วโมงจนกว่าจะลงจากรถ EQS อาจมีข้อได้เปรียบในด้านการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไม่มีเสียงเครื่องยนต์และแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการเผาไหม้ภายใน แต่ Maybach ก็มีความสงบและความรู้สึกที่เงียบงันจากการทำงานของเครื่องยนต์ V8 ที่ถูกปรับตั้งให้ทั้งนุ่มนวลและไหลลื่น
ระบบ Infotainment ในยุคแห่งอนาคตของ Maybach นั้นล้ำหน้าไปไกล ทุกวันนี้ ไม่มีอะไรในรถยนต์หรูหราหรือล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีเท่ากับระบบ MBUX เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ มันเหมาะสมที่ Mercedes จะไม่นำ MBUX เวอร์ชัน Hyperscreen ของ EQS ไปใช้ใน Maybach เนื่องจากความเป็นเอกเทศของแบรนด์ที่ต้องปราศจากการแทรกแซงใดๆ พื้นผิวที่กว้างขวางของไม้เคลือบผิวมันเงา ลายเส้นบนไม้เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ สวิตช์โลหะที่สลับซับซ้อน ดูเหมาะสมสำหรับ Maybach
Active Ambient Lighting ระบบปรับแสงตกแต่งห้องโดยสาร มีการปรับและผสมโทนสี ให้คล้ายกับ “ไนต์คลับในโตเกียว” สิ่งที่คุณต้องเผชิญยามอยู่นอกห้องโดยสาร ด้วยสารพัดกลิ่นซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นมิตรต่อจมูกของคุณ เมื่อก้าวเข้ามานั่ง ด้วยกลิ่นอันหอมหวานของน้ำหอม “No. 12 Mood” จากขวดน้ำหอมเล็กๆ ที่บรรจุอยู่ในกล่องเก็บของ จะทำให้รู้สึกดีขึ้น ส่วนที่ยึดเข็มขัดนิรภัยมีเส้นนำแสงสีแดงบางๆ ส่องสว่างรอบตำแหน่งที่รัดทำให้สังเกตได้ง่ายในเวลากลางคืน มันเจ๋งแค่ไหนที่โลโก้ Maybach ที่เหมือนสัญญาณแสงสว่างตราค้างคาว ปรากฏบนพื้นเมื่อประตูเปิด ประตูของ Maybach S58 อย่างที่บอกว่ามันสามารถเปิดออก หรือปิดได้อย่างนุ่มนวล ด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะใช้การสั่งงานให้ปิดด้วยการโบกมือ หรือกดสวิตช์บริเวณเพดาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่า รถยนต์ที่ดีที่สุดควรจะเป็นแบบนี้ ความสะดวกสบายทั้งหมดมีส่วนอย่างมากต่อการให้ความรู้สึกโดยรวมของความหรูหราโอ่อ่า แม้แต่สีภายนอกแบบทูโทนสองสี ก็ไม่ได้รบกวนแฟชั่นการแต่งกายของคุณมากจนเกินไป
ทุกอย่างเกี่ยวกับการขับขี่ของ Maybach ถูกออกแบบให้เป็นเรื่องง่าย ถือเป็นหัวใจสำคัญของความหรูหรา แม้แต่ขนาดและน้ำหนักของรถซาลูนคันนี้ก็ไม่ทำให้เกิดปัญหาในการขับเคลื่อนบนถนนที่คับแคบ ระบบเลี้ยวล้อหลังที่ปรับมุมแบบตรงกันข้ามถึง 10 องศา ล้อหลังสามารถทำให้วงเลี้ยวกว้างๆ แคบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อหมุนพวงมาลัยไปจนสุด รัศมีวงเลี้ยวของ Maybach S580 แคบพอๆ กับ C-Class เลยทีเดียว
“ปีที่แล้ว Mercedes-Maybach ขายได้มากกว่า 15,000 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากปี 2020 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายในจีนเป็นส่วนใหญ่ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Mercedes Maybach ได้เปิดเผยแนวคิดใหม่ เป็นแนวคิดเพื่อแสดงสิ่งที่แบรนด์อาจพิจารณา สำหรับยานพาหนะเพื่อการผลิตในอนาคต มีการควบรวมเอากระดุมที่เหมือนชาแนล ด้วยกระดุมสีโรสโกลด์ หนังสีขาว และขน faux ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วดูเหมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ได้ของมหาเศรษฐี มากกว่าจะเป็นห้องโดยสารของรถซาลูนหรู การออกแบบและเลือกใช้วัสดุภายในขั้นสูงของรถทั้งหมด มีขึ้นเพื่อเจาะใจคุณลูกค้าคนรวยล้วนๆ” Steffen Köhl ผู้อำนวยการด้านการออกแบบขั้นสูงกล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่สตูดิโอออกแบบของ Mercedes ในเมือง Nice ประเทศฝรั่งเศส.
Engine, Transmission and Suspension
Engine 4.0L V8 biturbo with mild hybrid drive
Power 510 hp @ 5,500 rpm Torque 700 Nm 516 lb-ft @ 2,000-4,000 rpm
Compression ratio 10.5:1
Construction Diecast alloy block and heads
Fuel requirement Premium unleaded gasoline
9G-TRONIC 9-speed automatic transmission with steering column gear selector, steering wheel gearshift
paddles (Direct Select) and SPEEDTRONIC cruise control
76-litre fuel tank
DYNAMIC SELECT with a choice of driving modes
E-ACTIVE BODY CONTROL – superb ride comfort and outstanding stability on dry, wet and slippery road
surfaces. Fully active, electrohydraulic suspension based on a 48 V system, four DYNAMIC SELECT driving
modes: ‘Comfort’, ‘Curve’, ‘Sport’ and ‘ECO’
ECO start/stop function
EQ Boost starter-alternator (48V Mild Hybrid Technology)
Petrol particulate filter
Suspension – AIRMATIC air suspension with air suspension struts at the front and rear axle, automatic level
control system, dependent on load: load detection for a constant suspension level, suspension level can be
raised for rough roads and is automatically lowered at high speeds
Exterior
Air inlet grille in the front apron in high-gloss black
Air inlet grille in the front apron in high-gloss chrome
Automatically dimming inside rear-view mirror and driver’s outside mirror including surround lighting with
projection of brand logo in the form of a Mercedes-Maybach logo
Badge – Maybach lettering and model badge on the boot lid in Maybach-specific lettering
Badge – Mercedes-Maybach badge on C-pillar
Badge – V12 badge in Maybach-specific lettering on the front wing
Chrome trim strip on the bonnet
Comfort doors in the rear
Exterior mirrors – ambient lighting with projection of brand logo
Garage door opener
Grey-painted brake callipers with ‘Mercedes-Benz’ lettering at the front, at the rear with grey logo badge
HANDS-FREE ACCESS
Headlamps – DIGITAL LIGHT
Heat-insulating, dark-tinted, noise-insulating and infrared-reflecting laminated glass
Heated windscreen
KEYLESS-GO with seamless door handles
Large compound brake discs, 360 × 26 mm, internally ventilated and perforated at the rear
Large compound brake discs, 390 × 36 mm, internally ventilated and perforated at the front
Lights – 2-piece LED tail lights with Maybach-specific 3D logo projection
MAGIC VISION CONTROL – adaptive windscreen wiper system, heated
Panoramic sliding sunroof
Power closing doors and boot lid – the assisted closing function closes doors smoothly and almost silently
Radiator grille with 27 vertical struts in high-gloss chrome, chrome surround with centrally positioned
Maybach lettering
Rear apron – Maybach-specific chromed tailpipes in transverse-strut design with horizontal insert integrated
into the rear apron
Rear apron – rear apron in the colour of the vehicle, lower part in high-gloss black with chrome trim strip between
the tailpipes
Remote boot lid closing – open and close the boot lid from the driver’s seat, while standing at the boot, or by
using the vehicle key
TIREFIT
Vehicle key in high-gloss white with ornamental surround in high-gloss rose gold
Steering
Direct steering
Multifunction steering wheel in nappa leather with ‘Maybach’ lettering
Multifunction steering wheel in wood/leather with ‘Maybach’ lettering in the vertical spoke¹ O – t
Rear-axle steering with 4.5° steering angle adjustment
Rear-axle steering with 10° steering angle adjustment
Steering column gear selector
Steering wheel gearshift paddles
Suspension
Adaptive, self-leveling 4-wheel multilink with AIRMATIC®
Steering type Rack-and-pinion with electromechanical power assist
Wheels 20″ MAYBACH forged wheels – 5-hole design with a high-gloss polished ceramic finish including fully integrated wheel bolt cover with 255/40 R 20 tyres (code R61)
Locking wheel nuts
Noise reduced tyre with foam absorber
Summer tyres
Interior
12 V socket in rear of centre console plus in the front passenger footwell
Active ambient lighting with 10 colour schemes
Adaptive rear compartment lighting
AIR-BALANCE package
Ambient lighting with Maybach-specific light colours Amethyst glow and Rosegold white
Automatically dimming rear view mirror
Centre console in a black crystal-look finish
Champagne flutes
Chauffeur package
designo backrests in wood
Door sill panels with ‘Maybach’ lettering at front and rear, illuminated
Double sun visors
EASY ADJUST luxury head restraints with additional cushion for driver and front passenger, foldable and
removable on front passenger side
EASY-ENTRY system to make it easier for the driver to get in and out
Electrically adjustable rear seats including memory function
Electric sunblinds in rear doors, left and right
Electric sunblind for rear window
ENERGIZING AIR CONTROL
Exclusive Trim package
Extended rear centre armrest with two temperature controlled cup holders
Folding tables in the rear
Front ENERGIZING package
High-pile floor mats
Load Compartment package including HANDS-FREE ACCESS
Memory package with electrically adjustable driver and front passenger seats, steering column and exterior
mirrors, with three storable positions
Net in front passenger footwell
Interior (continued)
Power closing function
Rear centre armrest with double cup holder
Refrigerated compartment in the rear
Seats – Active Multicontour Seat package
Seats – climatised front and rear seats
Seats – four-way lumbar support for driver and front passenger
Seats – heated front and rear seats
Seats – Rear Seat Comfort package
Seats – Seat Heating Plus for driver and front passenger seats
Seats – Seat Heating Plus for outer rear seats
Seats – seat on front passenger side electrically adjustable from the rear
Seats – two luxury executive rear seats
Sun Protection package
THERMOTRONIC 4-zone automatic climate control
Through-loading feature
Two luggage nets in the boot (only one luggage net depending on optional equipment)
Warmth Comfort package
Paint, Trim and Upholstery
Paint – metallic
Roof liner – DINAMICA roof liner, in black or beige depending on upholstery
Roof liner – nappa leather roof liner, in black or beige depending on upholstery
Trim – designo black piano lacquer trim with flowing lines¹ O – t
Trim – designo brown open-pore walnut wood trim with aluminium lines
Upholstery – MAYBACH Exclusive nappa leather
Safety and Assistance Systems
Anti-lock braking system (ABS) with Brake Assist (BAS)
Driving Assistance package
Adaptive brake lights
Airbags – front sidebags
Airbags – windowbags
Airbags – driver and front passenger
Airbags – centre airbag
Airbags – forward facing rear
Airbags – rear side airbags
Airbags – beltbags in rear
ATTENTION ASSIST
Automatic child seat recognition sensor
Belt feeders in the rear
Brake pad wear indicator – front brakes
Crosswind Assist
Dashcam
Designer belt buckles front and rear
Safety and Assistance Systems (continued)
Electric parking brake
Electric Stability Program (ESP®) with Acceleration Skid Control (ASR)
First aid kit
Increased anti-theft protection
Intelligent parking pilot
Parking package with 360 camera
Pedestrian protection
PRE-SAFE® Impulse
PRE-SAFE® system including PRE-SAFE sound
Rear belt status indication in the instrument display
Tyre pressure loss warning system
URBAN GUARD vehicle protection plus
Communications and In-Car Entertainment
3D driver display
Accident recovery and breakdown management¹
Communications module (LTE Advanced) for the use of Mercedes me connect services¹
DAB digital radio
Geofencing
Hard-disc navigation
Fingerprint scanner
Maintenance management¹
MBUX augmented reality for navigation
MBUX augmented reality head-up display
MBUX extended functions
MBUX High-End Rear Seat Entertainment System
MBUX Interior Assist (front and rear)²
MBUX navigation premium
MBUX rear tablet
Mercedes-Benz emergency call system
OLED central display
Parked vehicle locator – available to use free of charge for three years following activation¹, shows the position
of the parked vehicle in a radius of approx. 1.5 km
Personalisation – available to use free of charge for three years following activation¹, stores settings such
as the radio station or navigation destination in the personal driver profile and enables these to be used
in vehicles with the same telematics generation, the profile can be linked to the key, and the functions can
therefore already be activated before getting in
Pre-installation for Car Sharing
Pre-installation for Navigation Services – display of online content on the navigation map, parking spaces,
weather information, local search
Remote Door Locking and Unlocking – available to use free of charge for three years following activation¹,
provides convenient remote monitoring
Remote parking package – available to use free of charge for 3 years following activation¹
Remote retrieval of vehicle status¹ – shows mileage, tyre pressure, washer fluid level, etc.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/