Honor เปิดตัวสมาร์ทโฟน Honor 50 และ Honor 50 Pro ทางการ พร้อมยืนยันว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรองรับ GMS (Google Mobile Services) อย่างแน่นอน – Flashfly Dot Net – Flashfly

Honor เปิดตัวสมาร์ทโฟน Honor 50 และ Honor 50 Pro อย่างทางการแล้วในประเทศจีน พร้อมยืนยันว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของ Honor สนับสนุน GMS (Google Mobile Services) อย่างแน่นอน และพร้อมติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ตามรูปแบบการอนุญาตและการกำกับดูแลของ Google

เบื้องหลังที่ทำให้อุปกรณ์ของ Honor กลับมารองรับ Google Mobile Services ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เนื่องจากปัจจุบันแบรนด์ Honor แยกตัวมาเป็นอิสระจากแบรนด์ Huawei อย่างสิ้นเชิงแล้ว โดยทาง Huawei Investment & Holding Co., Ltd. ตัดสินใจขายแบรนด์สมาร์ทโฟน Honor ให้กับบริษัท Shenzhen Zhixin New Information Technology Co., Ltd. เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่เพียงซอฟต์แวร์เท่านั้นที่ Honor ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในสหรัฐอเมริกา ยังรวมถึงฮาร์ดแวร์ด้วย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Honor ยังมาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon ของ Qualcomm

Honor 50 มาพร้อมจอแสดงผล ขนาด 6.57 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 100MP + 8MP ultra wide-angle + 2MP macro + 2MP depth sensor ความจุแบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W

Honor 50 Pro มาพร้อมจอแสดงผล ขนาด 6.72 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G กล้องคู่หน้า 32MP + 12MP กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 100MP + 8MP ultra wide-angle + 2MP macro + 2MP depth sensor ความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W

Honor 50 มาในราคาเริ่มต้น 2,699 หยวน หรือราว 13,190 บาท และ Honor 50 Pro มีราคาเริ่มต้น 3,699 หยวน หรือราว 18,090 บาท นอกจากนี้ ยังมีรุ่นน้องเล็ก Honor 50 SE ราคาเริ่มต้น 2,399 หยวน หรือราว 11,690 บาท

RelatedPosts

เปิดใจ AIS และ dtac หลังพลาดการประมูล 4G คลื่น 900 MHz มั่นใจมีจำนวนคลื่นความถี่มากเพียงพอ

adidas Ultraboost 21 Primeblue รองเท้าวิ่งของคนรักษ์โลก

Honor 50 Series จะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในจีน ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2021 เป็นต้นไป และมีแผนขยายไปยังต่างประเทศด้วย ได้แก่ ฝรั่งเศส, มาเลเซีย, เม็กซิโก, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบียอารเบีย และ สหราชอาณาจักร

ที่มา – The Verge