‘ส.ส.กระบี่ภท.’โวยเจอใบสั่ง‘คู่แข่งทางการเมือง’เล่นงานช่วงใกล้เลือกตั้ง

วันอังคาร ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 16.36 น.

เดือดเข้าโค้งสุดท้าย! ‘ส.ส.กระบี่ ภท.’ โวยเจอใบสั่ง ‘คู่แข่งทางการเมือง’ เล่นงานช่วงใกล้เลือกตั้ง โดนตรวจสอบที่ดินญาติทั้งที่ไม่ใช่ วอนให้ความเป็นธรรม คาดไปประกาศ ‘ภูมิใจไทยแลนด์สไลด์อันดามัน’ สาเหตุถูก ‘รุมกินโต๊ะ’


เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เดินทางมาตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่ได้ยื่นไว้ว่า เขาสงสัยประเด็นอะไรถึงต้องให้นำตรวจสอบที่ดินในตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ทั้งๆที่ไม่ใช่ที่ดินของตน และเป็นที่ดินของญาติว่า ป.ป.ช.ส่วนกลาง มาตรวจสอบในเรื่องที่ตนเคยแจ้งรายงานบัญชีทรัพย์สิน ตั้งแต่ตนเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ก่อนหน้านี้เป็น 10 กว่าปีมาแล้ว ตนเพิ่งได้รับหนังสือป.ป.ช. เมื่อ2สัปดาห์ที่ผ่านมา และมาสอบถามข้อเท็จจริง ตนก็สงสัยว่า ก่อนหน้านี้ ตนเป็นคนแจ้งบัญชีทรัพย์สินโดยการแนะนำของเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. และบัญชีดังกล่าวที่ได้รายงานไว้ก็เป็นของเดิมทั้งสิ้น ต่อมาก็มีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มาร้อง ซึ่งบุคคลนี้ร้องส.ส.ทั้งประเทศเลยเป็นภาพรวมก็ไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นตนสงสัยว่านายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เขาหยิบตนมาคนเดียว มาร้องตนคนเดียว แต่คนอื่นไม่ร้อง ไม่ทราบว่ารับงานใครมาหรือไม่

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญที่สุดของตนคือที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ปสก. แปลงนี้ ตนบอกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่มากันประมาณประมาณ 5 – 6 คน ว่า 1.คือที่ดินตนไม่ใช่เป็นผู้ซื้อ มีนางเอี่ยนเป็นผู้ซื้อ และมีนายสรรชัย อุ่ยสกุล เป็นผู้ขาย หลักฐานมีชัดเจนและผู้ขายก็มีชีวิตอยู่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ก็อยู่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวันนี้ก็มีชีวิตอยู่ ป.ป.ช.ก็ไปสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อย แต่วันที่ตนไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ตนก็เล่าเหตุการณ์อย่างนี้ว่า ตนไม่ได้ซื้อไม่ได้ครอบครองไม่ได้ทำประโยชน์ ไม่ได้เข้าไปในแปลงไม่ได้เข้าไปในสวน ไม่รู้ว่าที่ดินอยู่ตรงไหน แต่รู้ตำแหน่ง แต่ว่าคนที่ไปร้องเรียนเขาบอกว่ามีที่ดินอยู่บนภูเขา ซึ่ง ป.ป.ช. ไปดูแล้วก็ไม่มีภูเขาแล้วล้อมรอบด้วยสวนของประชาชนที่ขึ้นทะเบียนเป็น สปก. แล้วด้วย ในขณะเดียวกันในพื้นที่ก็มีเจ้าหน้าที่ สปก. ป่าไม้ไปด้วย ในส่วนของป่าไม้ก็ยิงพิกัดว่าที่ตรงนี้เป็นที่จัดสรรให้ สปก. แล้ว สำหรับในส่วนของ สปก. ก็วางหมุด สปก. แล้วด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. บอกว่าให้ตนไปชี้ ซึ่งตนบอกว่าตนชี้ไม่ได้เนื่องจากว่าตนไม่รู้ และหมดอันนี้ก็เป็นหมดของ สปก. เป็นคนวาง เพราะฉะนั้นตนไม่ควรชี้ ตนก็ให้เจ้าของที่แท้จริงชี้ ก็ชี้กันไป

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่ออีกว่า แต่เมื่อ ป.ป.ช. เอาหนังสือมาให้ตนเซ็น ก็แปลกใจอีกว่า ทำไมสิ่งที่ตนพูดไปเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไม่บันทึกในสาระสำคัญ เช่นไม่ใช่ผู้ซื้อ ไม่ใช่เจ้าของ ไม่ใช่ครอบครอง ไม่ได้รับการทำประโยชน์ และเหตุผลสำคัญที่สุดว่าเหตุที่ตนไปแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่ส่วนกลางนั้น ก็เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ก็แนะนำว่าให้ทำอย่างนี้ โดยตนอธิบายว่าญาติพี่น้องซึ่งนางเอี่ยน เป็นแม่ยายตน ก็ซื้อสิทธิ์ครอบครองเป็นสวนปาล์มน้ำมันมาก่อนหน้านี้แล้ว และในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ สปก. ก็ยังไม่มีเวลาและการเข้าคิวในการที่จะไปออกระวางการกระจายสิทธิ์นั้นยังไม่เรียบร้อย ซึ่งตนทราบมาภายหลัง เขามาพึงพาตนโดยให้ตนไปซื้อต้นปาล์มที่หมดอายุแล้วไปปลูก เมื่อปลูกเสร็จแล้วญาติพี่น้องที่ยากจนที่มีชื่ออยู่ในแปลงกระจายสิทธิ์ เขาก็จะเอาเงินมาคืนตนเหมือนกับหุ้นส่วนกันว่านี้คือกำไรนะ ก็มาแบ่งกำไรบ้าง และส่วนใหญ่หลังจากตนเป็นผู้แทนไม่เคยไปรับส่วนแบ่งเลยและบอกว่าเอาไปให้แม่แล้วกัน และญาติตนอีกคนหนึ่งคือนายธรรมสัน มีรายได้จากสวนปาล์มไปรักษาภรรยาซึ่งป่วยปัจจุบันก็รักษาจนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินอื่นใดเลย ปาล์มเมื่อก่อนก็ทราบกันดีว่ากิโลกรัมละบาทกว่า ปุ๋ยกระสอบละ 500 บาท ก็หมดสภาพที่จะเหลือ ค่าตัดหญ้า ค่าแรงแทงและขนผลปาล์ม พอมาในช่วงปาล์มมีราคา 11 – 12 บาท ปุ๋ยขึ้นเป็น 1,800 บาท ค่าแรงก็เพิ่มขึ้น คนจนเหล่านี้เขามีสวนเล็กๆน้อยๆไม่เกิน 50 ไร่ ก็ไม่ค่อยเหลืออะไรเพราะฉะนั้นใช้จ่ายอยู่กินประจำวันก็หมดแล้ว

“ผมไม่สบายใจอยู่เรื่องก็คือว่า ผมลงพื้นที่กระแสข่าวคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามผม ก็มาโจมตีผมว่า อย่าไปเลือกเขา อย่าไปสนใจเขา เพราะวันนี้ ป.ป.ช. เขาจะมาเล่นงานอยู่แล้ว และจะไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งแล้ว ปมได้เรียนให้น้องเขาฟังว่ากระแสอย่างนี้ ป.ป.ช.จะเสียหาย ผมยืนยันว่าผมยังเชื่อในเจตนาบริสุทธิ์ของ ป.ป.ช. และทรัพย์สินของผมที่รายงานเป็นทรัพย์สินที่ผมแจ้งป.ป.ช.เอง ด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ป.ป.ช.ไปสืบค้นหามาได้ ให้ความร่วมมือตลอด และเคยทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรว่า สิ่งที่นายศรีสุวรรณ  และนายวัชระ ร้องเรียนผมไปถึงไหนแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.บอกว่าไม่มีหน้าที่ในการตอบหนังสือถ้าในกรณียังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ว่าในขณะเดียวกันผมเสียหายตรงที่ว่า ฝ่ายตรงกันข้ามผม และคนที่ไปร้องเรียนผมก็ไม่รู้เจตนาว่าทำไมไม่ร้องเรียนพรรคคู่แข่งผม ตรงนี้เขาจะเอาคลิปมาโพสต์ว่าร้องเรียนอยู่ และไปร้องเรียนผมหลายครั้งรวม 3 ที่ ร้องเมื่อไหร่แถลงข่าวเมื่อนั้น ผมไม่เคยโต้ตอบเลย และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. เขาขอร้องผมว่าอย่าไปโต้ตอบทางสื่อเดียวมันจะผูกพันผูกมัด” ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าว

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวด้วยว่า วานนี้(7พ.ย.) ตนไปเซ็นหนังสือเพื่อที่จะยืนยันว่า ตนได้นำเจ้าของที่แท้จริง ได้นำเจ้าหน้าที่ สปก. ประสานป่าไม้ ซึ่งเขาก็ได้ประสานอยู่แล้ว และในพื้นที่ตนได้ไปเจอเขาๆบอกว่าให้เซ็น แต่ปรากฏว่า ข้อความที่ตนอธิบายทั้งหมดเป็นสาระสำคัญไม่ถูกบันทึกในหนังสือ ตนเลยขอหมายเหตุว่า ตนขอหมายเหตุตอนท้ายได้ไม เขาก็ยินยอมตนจึงเซ็นไป และน้อง ปปช. บอกว่า สิ่งที่ตนพูดต้องเป็นหน้าที่ตนจะต้องทำบันทึกไปเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. เอง ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่า เป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้กับผู้ถูกร้องมากเลย ซึ่งขบวนการทาง ป.ป.ช. เวลาเราผ่านงบประมาณ ตนไม่เคยคัดค้านเลย เรื่องเกี่ยวกับป.ป.ช.ตนก็ไม่เคยอภิปรายเลย ตรงนี้เป็นข้อสังเกตที่ตนขอฝากไปยังผู้บริหารป.ป.ช. ได้ให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองที่ถูกร้อง อาจจะได้รับใบสั่งมาหรืออาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลังในการขัดแย้ง และในพื้นที่เช่นกันไม่ว่า จะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ก็มีฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งเขาก็เข้าใจผิดตนมาตลอด และก็ไม่มีใครยืนยันเลยว่าตนเคยเข้าไปดูในที่ดินแปลงนี้ ตนยืนยันว่า ตนไม่เคยเข้าไปในที่ดินแปลงนี้เลย เพียงแต่ว่า เป็นการร่วมลงทุน

“เป็นการช่วยเหลือญาติพี่น้องด้วยมีคุณธรรมสำนึกว่า ผมช่วยเหลือประชาชนได้ แต่พี่น้องผมยากจนไม่มีเงินทองเลย แล้วจะให้เขาไปยืมดอกเบี้ยนอกระบบมา ผมก็ทนไม่ได้ เลยบอกว่า ให้หุ้นกันไม่มีดอกเบี้ย แต่ว่าผลลัพธ์ที่ได้มาจากการตัดปาล์มก็มาแบ่งกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็แบ่งกันไม่กี่สตางค์ เพียง 5,000 – 10,000 บาทเท่านั้น เพราะที่มันเล็กน้อยมาก เลยเป็นประเด็นทางการเมืองที่ใกล้เลือกตั้งแล้ว ผมก็มีข้อกังวลห่วงใย อาจจะเป็นเพราะที่ผมไปประกาศว่า ภูมิใจไทยแลนด์สไลด์อันดามัน ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้ผมถูกรุมกินโต๊ะได้ ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่า การเล่นการเมืองอย่างนี้ไม่แฟร์ และการที่เล่นการเมืองแบบไม่ได้แข่งกันที่ผลงาน แต่ว่าแข่งกันที่การจับผิด แข่งกันที่การหาเหลี่ยมทางกฎหมายมาเล่นงานกันอย่างนี้ ผมคิดว่า ไม่มีมารยาททางการเมือง ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนดี ผมไม่เคยไปแตะ ผู้ใหญ่ภายในพรรคตรงกันข้ามคู่แข่งผม ก็รายงานเรื่องบัญชีทรัพย์สินในเรื่องของ สปก. และใบภบท.5” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว

นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ประเด็นสำคัญสุดท้าย คือใบ ภบท. 5 ตนก็ไม่เคยไปจ่าย แต่นางเอี่ยน ที่เป็นผู้สูงวัยที่ขับรถไม่ได้ เขาก็ให้คนขับรถตนไปช่วยจ่ายภาษี และเมื่อก่อนก็ไม่ใช่อยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบล บุคลากรปัจจุบันที่อยู่ไม่ว่า เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือว่านายก อบต. ก็เป็นคนใหม่ทั้งสิ้น คนเก่าไม่อยู่กันไปหมดแล้ว ในสมัยนั้นพอคนขับรถไปบอกว่า ให้ใส่ชื่อใคร เขาก็ใส่ชื่อคนนั้น ตรงนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่ง ที่ใบภบท.5 ไม่ใช่เอกสารแสดงสิทธิ์และก็ไม่ใช่แสดงอะไรเลย การไปเสียภาษี และรัฐก็ยกเลิกไปแล้วตอนนี้ เพราะว่า ประชาชนชอบไปอ้างสิทธิ์เวลาฟ้องคดี ว่ารัฐนี้รับรองว่า มีการครอบครองจริง แต่รัฐบอกว่า ไม่จริง ก็เลยไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับจ่ายภาษีใบภบท. 5 ฉะนั้นเรื่อง ภบท. 5 วันนี้ มันไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะฉะนั้นตรงนี้ถือว่า ทางป.ป.ช. ยังให้ความสำคัญในเรื่องของใบ ภบท. 5 อยู่ แต่ที่จริงแล้วความสำคัญก็คือการที่ตนจะไปแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ตนก็ไม่ได้ไปแจ้งเท็จ เพราะตนไปอธิบายข้อเท็จจริงป.ป.ช. แนะนำอย่างนี้ แม้กระทั่งป.ป.ช. แนะนำตนว่า ถ้าตนเป็นนักการพนันอย่างนี้ แล้วไปเล่นบ่อนที่แคนติ้งหรือบ่อนอะไรก็ต้องแจ้ง ปปช. แนะนำว่า นี้ต้องไปลงอาชีพว่าเป็นอาชีพนักเสี่ยงโชค แต่พอชนะมาต้องไปรายงานบัญชีทรัพย์สิน เพราะที่มาของ ป.ป.ช. สาระสำคัญก็คือ เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มานั้น ไม่ใช่ได้มาจากการทุจริต อันนี้คือสาระสำคัญ อีกประการหนึ่งในต่างจังหวัดคนที่มีที่ดินสวนปาล์มในวันนี้ กระบี่เป็นจังหวัดมีการลักขโมยปาล์มน้ำมันมากที่สุดในประเทศไทย และต่างคนก็ต่างอยากจะให้ผู้ที่มีชื่อเสียงเช่นเป็นของตำรวจ เป็นของผู้กำกับ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้โจรไปขโมย บางคนใครจะไปอ้างว่า เป็นที่ของตนหรือเป็นที่อะไรพวกนี้ตนก็ไม่รู้ เหมือนรถตู้ที่เขาติดป้ายนักการเมือง หรือว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ใช่เป็นเจ้าของของกำนันหรือนักการเมือง